วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การถ่ายทอดความคิดในการแก้ปัญหาด้วย "อัลกอริทึม"

1.การเขียนรหัสจำลอง (Pseudo  Code)
          หมายถึง การนำคำในภาษาอังกฤษ มาแสดงการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยเรียบเรียงเป็นประโยคให้สามารถสื่อความหมายให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่าแต่ละขั้นตอนของการแก้ปัญหานั้นทำได้อย่างไร  ซูโดโคดที่ดีต้องมีความชัดเจน สั้น กระชับ ได้ใจความก่อนทำการเขียนอัลกอริทึม ต้องกำหนดตัวแปรก่อนที่จะใช้ก่อนเสมอ

         วิธีการเขียนรหัสจำลอง (Pseudo Code)
สามารถกำหนดการทำงานได้เป็น 6 ข้อ ดังนี้
1.การรับข้อมูลของคอมพิวเตอร์
2.การแสดงผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์
3.การคำนวณหรือการทำงานทางคณิตศาสตร์ของคอมพิวเตอร์
4.การกำหนดค่าข้อมูลของคอมพิวเตอร์   
5.การเปรียบเทียบข้อมูล 2 อย่าง และมีการเลือกทางเดียวหรือสองทางเลือกในการทำงานหรือหลายทาง
6.การทำงานซ้ำของคอมพิวเตอร์

ตัวอย่างการเขียนรหัสจำลอง
จงเขียน Pseudocode จากโปรแกรมหาค่าเฉลี่ยของตัวเลข n ค่า แล้วแสดงค่าเฉลี่ยออกมาทางหน้าจอ
1. read n
2. for i = 1 to n <– เป็นคำสั่งวนรอบจำนวน n รอบ
1. read num
2. calculate sum = sum + num
3. calculate mean = sum / n
4. print mean
2.การเขียนผังงาน ( Flowchart )

ผังงาน คือ แผนภาพที่มีการใช้สัญลักษณ์รูปภาพและลูกศรที่แสดงถึงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมหรือระบบทีละขั้นตอน รวมไปถึงทิศทางการไหลของข้อมูลตั้งแต่แรกจนได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ 

ประโยชน์ของผังงาน

·       ช่วยลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม และสามารถนำไปเขียนโปรแกรมได้โดยไม่สับสน
·       ช่วยในการตรวจสอบ และแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิดข้อผิดพลาด
·       ช่วยให้การดัดแปลง แก้ไข ทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

วิธีการเขียนผังงาน 

·       ใช้สัญลักษณ์ตามที่กำหนดไว้
·       ใช้ลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากบนลงล่าง หรือจากซ้ายไปขวา
·       คำอธิบายในภาพควรสั้นกะทัดรัด และเข้าใจง่าย
·       ทุกแผนภาพต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้า - ออก
·       ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ควรใช้สัญลักษณ์จุดเชื่อมต่อแทน
·       ผังงานควรมีการทดสอบความถูกต้องของการทำงานก่อนนำไปเขียนโปรแกรม

ผังงานโปรแกรม ( Program Flowchart )

การเขียนผังโปรแกรมจะประกอบไปด้วยการใช้สัญลักษณ์มาตรฐานต่าง ๆ ที่เรียกว่า สัญลักษณ์ ANSI ( American National Standards Institute ) ในการสร้างผังงาน ดังตัวอย่างที่แสดงในรูปต่อไปนี้

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ

ขั้นตอนการแก้ปัญหา
1.การวิเคราะห์และการกำหนดรายละเอียดของปัญหา (State The Problem)
เมื่อเกิดปัญหาหรือความต้องการขั้นแรกคือ การทำความเข้าใจปัญหานั้นๆ อย่างละเอียด หรือกำหนดขอบเขตการแก้ปัญหา ระบุความต้องการให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร โดยเขียนเป็นข้อความสั้น ๆให้ได้ใจความชัดเจน มีขั้นตอนดังนี้
• การระบุข้อมูลนำเข้า
• การระบุข้อมูลส่งออก
• การกำหนดวิธีประมวลผล
2.การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอน (Tools And Algorithm Development)
การคิดออกแบบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเครื่องใช้เสมอไป อาจเป็นวิธีการก็ได้ และการออกแบบไม่จำเป็นต้องเขียนแบบเสมอไป อาจเป็นแค่ลำดับความคิด หรือจินตนาการให้เป็นขั้นตอนซึ่งรวมปฏิบัติการลงไปด้วย นั่นคือเมื่อออกแบบแล้วต้องลงมือทำ และลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ออกแบบไว้
3.การดำเนินการแก้ปัญหา (Implementation)
เป็นขั้นตอนที่ต้องลงมือแก้ปัญหาโดยใช้เครื่องมือที่เลือกไว้ การแก้ปัญหาดังกล่าวใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยงาน ขั้นตอนนี้ก็เป็นการใช้โปรแกรมสำเร็จ หรือใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมแก้ปัญหา
4.การตรวจสอบและปรับปรุง (Refinement)

หลังจากที่ลงมือแก้ปัญหาแล้วต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการนี้ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง โดยผู้แก้ปัญหาต้องตรวจสอบว่าขั้นตอนวิธีที่สร้างขึ้นสอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหา ในขณะเดียวกันก็ต้องปรับปรุงวิธีการเพื่อให้การแก้ปัญหานี้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด